แนวคิดและหลักการเขียนโปรแกรม

แนวคิดในการเขียนโปรแกรม
     รูปแบบของแนวคิดในการเขียนโปรแกรม สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แนวคิดใหญ่ ๆ ดังนี้
        1. การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง (Structured Programming)
        2. การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (OOP : Object-Oriented Programming)
ซึ่งแต่ละแนวคิดมีลักษณะดังต่อไปนี้
        1. การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง (Structured Programming) เป็นการจัดการคำสั่งต่างๆ ให้มีรูปแบบและมาตรฐานที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ง่าย ตรวจสอบได้ง่าย ทั้งสะดวกในการปรับปรุงโปรแกรมในอนาคต มีโครงสร้างการควบคุม 3 รูปแบบ ได้แก่
          1.1) โครงสร้างแบบลำดับขั้นตอน (Sequence) ประกอบด้วยคำสั่งหรือชุดคำสั่งที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการตัดสินใจ มีทางเข้าทางเดียว และมีทางออกทางเดียว ดำเนินการแบบเรียงลำดับต่อเนื่อง โดยแต่ละขั้นตอนมีการดำเนินการเพียงครั้งเดียว มีรูปแบบผังงานดังภาพ


                          ภาพที่ 2.1  ผังงานโครงสร้างแบบลำดับขั้นตอน

ภาพที่ 2.2  ตัวอย่างผังงานแบบลำดับขั้นตอo

    1.2) โครงสร้างแบบมีทางเลือก ในการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง (Decision) ในโปรแกรมมีการตรวจสอบเงื่อนไข (Condition) ว่าเป็นค่าจริงหรือค่าเท็จ แล้วดำเนินการตามคำสั่งที่เงื่อนไขกำหนดต่อไป โดยมีรูปแบบผังงานดังภาพ


ภาพที่ 2.3  ผังงานโครงสร้างแบบมีทางเลือก



ภาพที่ 2.4  ตัวอย่างผังงานแบบมีทางเลือก

   1.3) โครงสร้างแบบทำซ้ำ (Iteration) เป็นการทำงานแบบวนซ้ำหลาย ๆ รอบ และหลุดจากเงื่อนไขก็ต่อเมื่อเงื่อนไขตรงกับที่กำหนดไว้


ภาพที่ 2.5  ผังงานโครงสร้างแบบทำซ้ำ


ภาพที่ 2.6  ตัวอย่างผังงานแบบทำซ้ำ

 
  2. การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (OOP : Object-Oriented Programming) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแนวคิดเชิงวัตถุ ตั้งอยู่บนพื้นฐานการแจกแจงรายละเอียดของปัญหา ผู้เขียนโปรแกรมต้องพยายามแยกประเภทของวัตถุให้ได้ ต้องมีจินตนาการพอสมควร ซึ่งจะมองวัตถุหนึ่ง ๆ เป็นแหล่งรวมของข้อมูล และกระบวนการไว้ด้วยกัน โดยจะมีคลาส (Class) เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติของวัตถุ และคลาสสามารถสืบทอดคุณสมบัติ(Inheritance) ที่เรียกว่า Subclass ได้ มีการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reusable) ทำให้ลดขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมลงได้ โดยเฉพาะโปรแกรมขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น